อยู่ๆเมื่อวานก็คิดขึ้นมาเล่น ๆ ว่ายูเมะในเวิร์สเราถ้าอยู่ในเอยูรีบอร์นแล้วใครจะเป็นธาตุไหนบ้าง ถ้าเอาแก๊งนี้คงประมาณนี้ ส่วนอีกสองคน คิริวคงเป็นอัสนี ส่วนสายหมอกน่าจะต้องแขกรับเชิญ โทคิคุง55555ละสตรพี่แกเหมาะด้วยนะ

คนที่ชื่อย่อเทนโชวอินเอย์จิสินะคะ55555

คิดไปใกล้ คือ อะไร

อารมณ์เหมือนเด็กแปะสติ้กเกอร์ไว้บนของ ๆ ตัวเอง คิริวอาจจะไม่คิดอะไร แต่คนใส่ที่ชอบคิดไปใกล้คงคิดแบบนั้นแน่เลย(?)

ต่ออีกนิส จริง ๆ มีพล็อตที่คิดไว้ตั้งใจอยากเอาไปวาดเป็นเนียนเส้นการ์ด5ดาวสมร(ฟีเจอร์3?) อันบลูมเป็นสุมิเระที่กระชากคอเสื้อนางิสะ เกรี้ยวกราดทั้งสีหน้าท่าทางเหมืแนจะทะเลาะกันจริง ๆ
แต่เบื้องหลังคือนางิสะแค่ขอให้สุมิเระเป็นคู่ซ้อมละครด้วยเฉย ๆ(สำหรับดรามาติก้า)
คอมเม้นของนงสคือ แว๊บนึงเหมือนสุมิเระไม่ใช่นักแสดงที่สวมบทบาท แต่คือคนที่ถอดหน้ากากของตัวเองออกมามากกว่า

ภาพแรกของอันนี้ก็เป็นช่วงเดียวกัน เพราะกลัวว่าจะทำให้คนที่เห็นหน้าตัวเองรู้สึกไม่ดีเลยหมกตัวไม่ออกไปไหนช่วงนึงเลย ถ้าจะเป็นต้องออกก็จะใส่แมสก์ไปเลย
bsky.app/profile/smry...

ว่าแล้วก้หยิบรูปนี้กลับมาพูดถึง เป็นช่วงแปรปรวนที่สุมิเระเริ่มรับไม่ได้กับรอยยิ้มตัวเองที่เห็นหน้ากระจก พยายามฝึกยิ้มแต่ก็ไม่พอใจสักที พอต้องพยายามเป็นคนทัศนคติดีโดยที่กดความรู้สึกที่มีต่อตัวเองไปด้วย มันเลยบึ้มออกมา เผลอต่อยกระจกแตก เหมือนคนที่วาดหรือเขียนไม่ได้ดังใจแล้วขยำกระดาษทั้งนั่นแหละ(แต่นี่มันกระจกไง)

bsky.app/profile/smry...

ถึงจะไม่เท่าคิริว แต่ฟีเน่เก่าทุกคนก็เป็นอีกเซฟโซนหนึ่งเหมือนกัน นางิสะที่ไม่ถือสาอยู่แล้วว่าสุมิเระจะวางตัวยังไง เอย์จิที่รู้ธาตุแท้กันและกันจนไม่รู้จะแสแสร้งไปทำไม สึมุกิที่ยอมรับไม่ตัดสินความฝันของสุมิเระ ฮิโยริที่คอยเฝ้ามองและแนะนำ โดยที่ไม่รู้ตัว สุมิเระเลยเริ่มผูกพันและสบายใจกับสี่คนนี้ไปด้วย

ถ้าคิริวเป็นเซฟโซน ฮิโยริคงเป็นคนที่เรียกสติว่าสุมิเระกำลังต้องการสิ่งนั้นอยู่ แล้วมอบความกล้าให้เปิดใจ อย่าพึ่งเลิกเชื่อมั้นว่ามันมีอยู่จริง ๆ นะสถานที่ ๆ เราไม่ต้องพยายามเป็นคนอื่น

ส่วนฮิโยริคงมองออกแต่แรกอยู่แล้ว เพราะแบบนั้นถึงได้ยื่นมือเข้ามาหา เพราะถึงสุมิเระจะบอกว่าตัวเองไม่ได้ใจดีอย่างที่แสดงออก แต่เพราะบทบาทมันเริ่มผนวกเข้ากับตัวเองจนกลายเป็นนิสัย ฮิโยริเองก็เป็นตัวอย่างว่าเราสามารถโอบรับเอาบทบาทนั้นมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนเราได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะแบบไหนก็คือสุมิเระยุดี

แต่เราเชื่อว่าถ้าเป็นคิริว ยังไงคงบอกว่าไม่เป็นไรแล้วยินดีจะอยู่ข้าง ๆ
คสพหลังจากนั้นเลยเหมือนกับคิริวได้ค่อย ๆ ทำความรู้จักอีกด้านของสุมิเระใหม่ ทั้งสิ่งที่ชอบไม่ชอบ เพราะปกติเจ้าตัวไม่บอกและไม่กล้าพูดว่าตัวเองกลัวอะไรไม่ชอบอะไร พอได้มีพื้นที่ปลอดภัยจริง ๆ สุมิเระคงเริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้น

เวลาสุมิเระอยู่กับคิริวแบบส่วนตัว บางทีสุมิเระก็ไม่ยิ้ม ไม่ค่อยพูด อยู่เงียบ ๆ นิ่ง ๆ ไปเลย(เริ่มเป็นแบบนี้ช่วงES2) ตอนแรกคิริวก็สับสนแหละ ว่าฉันเป็นคนน่าเบื่อรึเปล่า ทำอะไรให้ไม่พอใจหรือเปล่า
สุดท้ายสุมิเระเลยตัดสินใจคุยตรง ๆ ว่ากับคิริว ไม่อยากโกหกแล้ว ถ้าคนที่เธอรู้จักมาตลอดไม่ใช่ตัวจริงของฉัน จะรับได้หรือเปล่า ไม่ใช่คนใจดี ไม่ใช่คนคุยเก่ง บางทีก็อาจจะเงียบจนน่าเบื่อ

วัยเด็กด้วย แต่ยิ้มเหมือนคนใจดีเพราะถูกสอนว่าต้องยิ้ม แต่ใจไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย ช่วงอดีตเลยเป็ยสุมิเระที่ยิ้มเพื่อคนอื่นไม่ใช่เพราะความสุขของตัวเอง ดีเทลวัยเด็กที่เคยวาดไว้นี่ถึงขั้นสายตาว่างเปล่ามาเลย แต่คิดอีกทีคงไม่ต้องถึงขั้นนั้นหรอก555555

อยากไปหาอะไรสนุก ๆ ทำสินะคะ😈

ที่คิดไว้นี่ตอบผิดตอบถูกน้ำเสียงจะต่างกันด้วย เบียวเว่อ5555555