(+ ได้เสมอนะคับ💪🏻)
Doc: bit.ly/RKM_Kojima
“เอางั้นหรอ”
เห็นทุกคนดูคาดหวังแล้วก็แอบเหลิงนิดหน่อย (…)
“ตอนนี้มีแต่ฟลูตน่ะ—พอได้มั้ย?”
กลับมาตื่นเต้นกับเครื่องดนตรีโปรดอีกครั้ง ไม่รอช้า หยิบออกมาจากกระเป๋า เพราะเป็นวงดุริยางค์เลยพกมาปกติอยู่แล้ว
[♩]
“แหะ … ประมาณนี้น่ะ…?”
(แนบประกอบ—)
youtu.be/vdMn2jIUU6A?...
“เอางั้นหรอ”
เห็นทุกคนดูคาดหวังแล้วก็แอบเหลิงนิดหน่อย (…)
“ตอนนี้มีแต่ฟลูตน่ะ—พอได้มั้ย?”
กลับมาตื่นเต้นกับเครื่องดนตรีโปรดอีกครั้ง ไม่รอช้า หยิบออกมาจากกระเป๋า เพราะเป็นวงดุริยางค์เลยพกมาปกติอยู่แล้ว
[♩]
“แหะ … ประมาณนี้น่ะ…?”
(แนบประกอบ—)
youtu.be/vdMn2jIUU6A?...
“กำลังมารบกวนขอยืมคิเซกิเขาใช้ห้องซ้อมบ้างน่ะเพราะว่าที่ห้องพักของผมมันไม่ค่อยมีอุปกรณ์แล้วก็เก็บเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอฝากตัวด้วยนะครับ~”
“กำลังมารบกวนขอยืมคิเซกิเขาใช้ห้องซ้อมบ้างน่ะเพราะว่าที่ห้องพักของผมมันไม่ค่อยมีอุปกรณ์แล้วก็เก็บเสียงไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขอฝากตัวด้วยนะครับ~”
คนใส่ชุดไดโนเสาร์โบกมือเล็กน้อย
“แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของคิเซกิเองครับ~”
กล่าวจบก็หันกลับไปมองเพื่อนนิดหน่อยว่าพอได้รึเปล่า แต่เห็นอีกฝ่ายพูดถึงด้านดนตรีด้วยก็หันกลับไป จริงๆตอนบอกที่โรงเรียนก็เป็นครั้งแรกๆเลยเหมือนกัน ได้เอามาคุยกับคนแปลกหน้าก็นับว่าแปลกใหม่เลย แต่ก็แปลกใจที่ไม่ได้อึดอัดอะไรนัก เพราะเป็นคนแปลกหน้าแหละมั้ง
+
คนใส่ชุดไดโนเสาร์โบกมือเล็กน้อย
“แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมห้องของคิเซกิเองครับ~”
กล่าวจบก็หันกลับไปมองเพื่อนนิดหน่อยว่าพอได้รึเปล่า แต่เห็นอีกฝ่ายพูดถึงด้านดนตรีด้วยก็หันกลับไป จริงๆตอนบอกที่โรงเรียนก็เป็นครั้งแรกๆเลยเหมือนกัน ได้เอามาคุยกับคนแปลกหน้าก็นับว่าแปลกใหม่เลย แต่ก็แปลกใจที่ไม่ได้อึดอัดอะไรนัก เพราะเป็นคนแปลกหน้าแหละมั้ง
+
“อา-สวัสดีครับ..!”
พูดสุภาพอัตโนมัติเมื่อต้องรู้จักกับคนใหม่ แต่คงเพราะทุกคนดูเป็นมิตรด้วยเขาเลยสลัดความประหม่าแล้วปรับตัวได้โดยง่าย โคจิมะหันหน้าเข้ากล้องแล้วยิ้มทักทาน
+
“อา-สวัสดีครับ..!”
พูดสุภาพอัตโนมัติเมื่อต้องรู้จักกับคนใหม่ แต่คงเพราะทุกคนดูเป็นมิตรด้วยเขาเลยสลัดความประหม่าแล้วปรับตัวได้โดยง่าย โคจิมะหันหน้าเข้ากล้องแล้วยิ้มทักทาน
+
พยักหน้าเข้าใจแล้วก็นั่งหลบกล้องตามที่บอก ตาก็มองจอไปด้วย
นั่งฟังไปได้สักแปปก็เหมือนจะถูกพูดถึงด้วย คอยรอดูเมื่ออีกฝ่ายบอกจะแนะนำตัวตามลำดับ ได้แต่สงสัยว่าจะมีคนแบบไหนบ้างนะ?
ระหว่างนั้นที่เห็นว่าเพื่อนมองมาก็แต่ยิ้มให้
(●’◡’●)???
พยักหน้าเข้าใจแล้วก็นั่งหลบกล้องตามที่บอก ตาก็มองจอไปด้วย
นั่งฟังไปได้สักแปปก็เหมือนจะถูกพูดถึงด้วย คอยรอดูเมื่ออีกฝ่ายบอกจะแนะนำตัวตามลำดับ ได้แต่สงสัยว่าจะมีคนแบบไหนบ้างนะ?
ระหว่างนั้นที่เห็นว่าเพื่อนมองมาก็แต่ยิ้มให้
(●’◡’●)???
“เอาสิ”
เขาตอบซื่อๆ ไม่มีเหตุ และไม่ได้สนใจผลอะไรอีก ต่อต้านไม่ได้ก็เลยเข้าร่วมเลยละกัน
…
แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเลือกเหมือนกัน…อะไรนะ?
“ไดโนเสาร์…ล่ะมั้ง?”
พูดแล้วยังงงๆกับตัวเองเหมือนกัน ตัวเลือกอื่นๆก็ไม่ได้ดูแตกต่างกันเท่าไหร่สำหรับเขา
“หรือว่าให้ฉัน…ด้วยหรอ?”
“เอาสิ”
เขาตอบซื่อๆ ไม่มีเหตุ และไม่ได้สนใจผลอะไรอีก ต่อต้านไม่ได้ก็เลยเข้าร่วมเลยละกัน
…
แต่ไม่ได้คิดว่าจะต้องมาเลือกเหมือนกัน…อะไรนะ?
“ไดโนเสาร์…ล่ะมั้ง?”
พูดแล้วยังงงๆกับตัวเองเหมือนกัน ตัวเลือกอื่นๆก็ไม่ได้ดูแตกต่างกันเท่าไหร่สำหรับเขา
“หรือว่าให้ฉัน…ด้วยหรอ?”
“อืม ก็สนใจหลายอย่างอยู่นะ”
จากที่เริ่มทำใจให้ชินกับสถานที่แล้วสนใจแต่เครื่องดนตรี พอหันกลับไปมองโคจิมะก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด
“เอ…”
ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนเลยดี เขาควรจะเตรียมพร้อมกับการตกใจทุกสถานการณ์เลยรึเปล่านะ (…)
“ชุดนี่…ก็เป็นของจำเป็นหรอ?”
“อืม ก็สนใจหลายอย่างอยู่นะ”
จากที่เริ่มทำใจให้ชินกับสถานที่แล้วสนใจแต่เครื่องดนตรี พอหันกลับไปมองโคจิมะก็ชะงักไปอย่างเห็นได้ชัด
“เอ…”
ไม่รู้จะพูดอะไรก่อนเลยดี เขาควรจะเตรียมพร้อมกับการตกใจทุกสถานการณ์เลยรึเปล่านะ (…)
“ชุดนี่…ก็เป็นของจำเป็นหรอ?”
“อ๋อ ไม่เป็น—”
ก็ไม่ทันได้ปฏิเสธจริงๆ โคจิมะงุนงงกับการมีอยู่ของปุ่มบนผนังห้อง แต่ก็แค่ครู่เดียวทั้งนั้น
“…”
“ได้เลย”
ไหนฟะครับ ครอบครัวธรรมดา—
ระหว่างที่อีกฝ่ายออกไปก็เลยได่แต่เดินสำรวจอุปกรณ์ห่างๆ ไม่กล้าแตะมากกลัวพัง (…)
*มีมประกอบอินเนอร์ในใจ*
“อ๋อ ไม่เป็น—”
ก็ไม่ทันได้ปฏิเสธจริงๆ โคจิมะงุนงงกับการมีอยู่ของปุ่มบนผนังห้อง แต่ก็แค่ครู่เดียวทั้งนั้น
“…”
“ได้เลย”
ไหนฟะครับ ครอบครัวธรรมดา—
ระหว่างที่อีกฝ่ายออกไปก็เลยได่แต่เดินสำรวจอุปกรณ์ห่างๆ ไม่กล้าแตะมากกลัวพัง (…)
*มีมประกอบอินเนอร์ในใจ*
มองแบบไม่ค่อยเชื่อนิดหน่อย… แม้แต่ก่อนที่บ้านของเขาจะล้มละลายก็ยังไม่มีบ้านแบบที่แทบจะตะโกนออกมาว่าเงินหนาขนาดนี้เลย(…) แล้วมันธรรมดาแบบใดกันฟระ
“เห มีพี่น้องด้วยนี่เอง”
แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซร้เรื่องฐานะต่อ สายตามองไปทางลำโพง คีย์บอร์ด และ…แพดคอนโทรลเลอร์ ให้ตายสิ เพิ่งจะเคยเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันมีอะไรแบบนี้จริงๆนี่แหละ — โดนอุปกรณ์ดึงดูดความสนใจไปแล้ว
มองแบบไม่ค่อยเชื่อนิดหน่อย… แม้แต่ก่อนที่บ้านของเขาจะล้มละลายก็ยังไม่มีบ้านแบบที่แทบจะตะโกนออกมาว่าเงินหนาขนาดนี้เลย(…) แล้วมันธรรมดาแบบใดกันฟระ
“เห มีพี่น้องด้วยนี่เอง”
แต่เขาก็ไม่ได้ซักไซร้เรื่องฐานะต่อ สายตามองไปทางลำโพง คีย์บอร์ด และ…แพดคอนโทรลเลอร์ ให้ตายสิ เพิ่งจะเคยเห็นเพื่อนรุ่นเดียวกันมีอะไรแบบนี้จริงๆนี่แหละ — โดนอุปกรณ์ดึงดูดความสนใจไปแล้ว
โคจิมะกล่าวเบาๆ รู้สึกตัวเล็กลงมาเหลือเท่ามด เขาค่อยๆกวาดสายตาไปทั่วห้อง ยังช็อกอยู่ แต่ห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ดนตรีก็ดึงความสนใจได้จริงๆ
“เอ่อ…ฉันอาจจะถามแปลกๆ…แต่บ้านนายเป็นเศรษฐีอะไรแบบนี้รึเปล่า?”
เหมือนพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงเกรงใจจะมากัน (…)
โคจิมะกล่าวเบาๆ รู้สึกตัวเล็กลงมาเหลือเท่ามด เขาค่อยๆกวาดสายตาไปทั่วห้อง ยังช็อกอยู่ แต่ห้องที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ดนตรีก็ดึงความสนใจได้จริงๆ
“เอ่อ…ฉันอาจจะถามแปลกๆ…แต่บ้านนายเป็นเศรษฐีอะไรแบบนี้รึเปล่า?”
เหมือนพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงเกรงใจจะมากัน (…)
???
หือ?
นั่งงงในรถหรูแพงหูฉี่ พื้นที่กว้างขวาง แอร์ก็เย็นฉ่ำ
???
เดินตามลงมาจากรถก็เห็นบ้านโมเดิร์นขนาดใหญ่เกินกว่าที่จินตนาการ
???
มีรอยยิ้มสับสนขณะเดินผ่านห้องนับสิบกว่าจะถึงสตูดิโอในบ้าน อุปกรณ์ครบครันดังที่เคยเห็นในภาพ
(ขอติ๊ต่างรถกะบ้านนะคับYY)
+
???
หือ?
นั่งงงในรถหรูแพงหูฉี่ พื้นที่กว้างขวาง แอร์ก็เย็นฉ่ำ
???
เดินตามลงมาจากรถก็เห็นบ้านโมเดิร์นขนาดใหญ่เกินกว่าที่จินตนาการ
???
มีรอยยิ้มสับสนขณะเดินผ่านห้องนับสิบกว่าจะถึงสตูดิโอในบ้าน อุปกรณ์ครบครันดังที่เคยเห็นในภาพ
(ขอติ๊ต่างรถกะบ้านนะคับYY)
+
“คิเซกิ!”
ไม่รอช้าหลังเลิกเรียน เขาเร่งลุกขึ้นทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายเดินมาหา คงเพราะตื่นเต้นที่จะไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลยหายลังเลอย่างง่ายดาย
“อืม ไปกันเถอะ!”
โคจิมะยิ้มร่า เก็บของพร้อม ถือกระเป๋าเตรียมกลับอย่างกระตือรือร้น
“คิเซกิ!”
ไม่รอช้าหลังเลิกเรียน เขาเร่งลุกขึ้นทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายเดินมาหา คงเพราะตื่นเต้นที่จะไปเที่ยวบ้านเพื่อนเลยหายลังเลอย่างง่ายดาย
“อืม ไปกันเถอะ!”
โคจิมะยิ้มร่า เก็บของพร้อม ถือกระเป๋าเตรียมกลับอย่างกระตือรือร้น
ถึงจะคิดๆไว้แล้วและไม่ได้อะไรกับการชวนกระทันหัน แต่โคจิมะก็ลังเลนิดหน่อย นิ่งคิดไปนิดหน่อย
“อืม… จริงๆก็ว่างนะ! แต่จะไม่เป็นไรหรอ…?”
เห็นอีกฝ่ายมีนัดคอลอยู่แล้วเลยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนเกินไปรึเปล่า แต่โอกาสแบบนี้ก็หาได้ยากเหมือนกัน นานๆเขาจะว่างตรงวันแบบนี้พอดีด้วย
“อ๊ะ แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆของคิเซกิไม่ว่าอะไรก็อยากจะไปดูอยู่แล้วน่ะนะ!”
ถึงจะคิดๆไว้แล้วและไม่ได้อะไรกับการชวนกระทันหัน แต่โคจิมะก็ลังเลนิดหน่อย นิ่งคิดไปนิดหน่อย
“อืม… จริงๆก็ว่างนะ! แต่จะไม่เป็นไรหรอ…?”
เห็นอีกฝ่ายมีนัดคอลอยู่แล้วเลยไม่รู้ว่าจะเป็นการรบกวนเกินไปรึเปล่า แต่โอกาสแบบนี้ก็หาได้ยากเหมือนกัน นานๆเขาจะว่างตรงวันแบบนี้พอดีด้วย
“อ๊ะ แน่นอนว่าถ้าเพื่อนๆของคิเซกิไม่ว่าอะไรก็อยากจะไปดูอยู่แล้วน่ะนะ!”
“พูดแบบนั้นแล้วก็ยิ่งอยากฟังเลยสิ”
หัวเราะเบาๆอีกครั้ง
“อ๊ะ งั้นหรอ” เกาแก้มเบาๆ พอเข้าใจคนอื่นๆอยู่หรอก “งั้นกับเพื่อนออนไลน์ที่ทำวงด้วยกัน ก็อัดเพลงแล้วส่งไฟล์มาอะไรแบบนี้หรอ?”
แน่นอนว่ายังสนใจเรื่องนี้อยู่ ได้ยินว่าไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยเลยสงสัยนิดหน่อย
“เอ… ทำด้วยอุปกรณ์พวกนี้สินะ”
จิตวิญญาณนักดนตรีเข้าสิง (…)
“พูดแบบนั้นแล้วก็ยิ่งอยากฟังเลยสิ”
หัวเราะเบาๆอีกครั้ง
“อ๊ะ งั้นหรอ” เกาแก้มเบาๆ พอเข้าใจคนอื่นๆอยู่หรอก “งั้นกับเพื่อนออนไลน์ที่ทำวงด้วยกัน ก็อัดเพลงแล้วส่งไฟล์มาอะไรแบบนี้หรอ?”
แน่นอนว่ายังสนใจเรื่องนี้อยู่ ได้ยินว่าไม่เคยเห็นหน้ากันด้วยเลยสงสัยนิดหน่อย
“เอ… ทำด้วยอุปกรณ์พวกนี้สินะ”
จิตวิญญาณนักดนตรีเข้าสิง (…)
“ก็ไม่ติดใจอะไรหรอกถ้าจะไปบ้านเพื่อน… แต่เกรงใจนั่นแหละ” เอ่ยยิ้มๆ “ถ้าไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากลองฟังเพลงที่คิเซกิเล่นดูบ้างนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจะแวะไปบ้างได้รึเปล่า?”
ดวงตาเป็นประกายคล้ายจะคาดหวังหน่อยๆ สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องดนตรีที่ดึงดูดเขาไปได้โดยง่าย
“ก็ไม่ติดใจอะไรหรอกถ้าจะไปบ้านเพื่อน… แต่เกรงใจนั่นแหละ” เอ่ยยิ้มๆ “ถ้าไม่ว่าอะไร ฉันก็อยากลองฟังเพลงที่คิเซกิเล่นดูบ้างนะ ถ้าเป็นแบบนั้นจะแวะไปบ้างได้รึเปล่า?”
ดวงตาเป็นประกายคล้ายจะคาดหวังหน่อยๆ สุดท้ายแล้วก็เป็นเรื่องดนตรีที่ดึงดูดเขาไปได้โดยง่าย
“อื้อ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”
พูดติดปากจนเคยตัว
“โอ้ ดูดีเลยนี่นา” ดูสนใจห้องของเพื่อนที่มีทั้งอุปกรณ์ดนตรีแล้วก็การจัดห้องดูเป็นระเบียบ แต่พอถูกชวนก็มีสีหน้าแปลกใจ “เอ๊ะ? ได้หรอ?”
+
“อื้อ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก”
พูดติดปากจนเคยตัว
“โอ้ ดูดีเลยนี่นา” ดูสนใจห้องของเพื่อนที่มีทั้งอุปกรณ์ดนตรีแล้วก็การจัดห้องดูเป็นระเบียบ แต่พอถูกชวนก็มีสีหน้าแปลกใจ “เอ๊ะ? ได้หรอ?”
+
“อื้ม!”
เหมือนจะพอใจกับคำว่านักดนตรีคลาสสิกมาก
“ไม่เป็นไรๆ ถามได้น่ะแหละ ฉันเองก็ซักไซร้…แถมถามไปตั้งเยอะแล้ว” เขาบอกพลางโบกมือปัดไปมา “จะว่าไงดี แรกๆก็สนับสนุนให้เล่นเป็นงานอดิเรกน่ะแหละ แต่แบบว่าช่วงนี้…”
เขาครุ่นคิด เว้นช่วงไปนิดหน่อยพลางคิดว่าจะตอบอย่างไรให้เข้าใจได้ทันที
“อืม… ถังแตกน่ะ!”
ก็เลยพูดออกมาตรงๆซะเลย!?
“อื้ม!”
เหมือนจะพอใจกับคำว่านักดนตรีคลาสสิกมาก
“ไม่เป็นไรๆ ถามได้น่ะแหละ ฉันเองก็ซักไซร้…แถมถามไปตั้งเยอะแล้ว” เขาบอกพลางโบกมือปัดไปมา “จะว่าไงดี แรกๆก็สนับสนุนให้เล่นเป็นงานอดิเรกน่ะแหละ แต่แบบว่าช่วงนี้…”
เขาครุ่นคิด เว้นช่วงไปนิดหน่อยพลางคิดว่าจะตอบอย่างไรให้เข้าใจได้ทันที
“อืม… ถังแตกน่ะ!”
ก็เลยพูดออกมาตรงๆซะเลย!?
“แบบว่าตอนแรกก็แค่เปียโน… แต่สักพักก็เล่นฟลูตด้วย แล้ว… พอขึ้นมอต้นมาก็แบบว่า ว้าว ร็อกนี่ดีจัง ก็เลยเล่นกีตาร์ด้วยน่ะ”
“แต่ว่าที่บ้านไม่ได้สนับสนุนเท่าไหร่เลยเล่นได้แค่ที่นี่”
โคจิมะเกาแก้มเบาๆ รู้สึกแปลกๆถ้าจะเล่าต่อ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ที่จะบอกก็คือ…ไม่บอกใครก็ได้อยู่แล้ว…แต่มาคุยกับฉันเรื่องนี้บ้างก็ได้นะ?”
“แบบว่าตอนแรกก็แค่เปียโน… แต่สักพักก็เล่นฟลูตด้วย แล้ว… พอขึ้นมอต้นมาก็แบบว่า ว้าว ร็อกนี่ดีจัง ก็เลยเล่นกีตาร์ด้วยน่ะ”
“แต่ว่าที่บ้านไม่ได้สนับสนุนเท่าไหร่เลยเล่นได้แค่ที่นี่”
โคจิมะเกาแก้มเบาๆ รู้สึกแปลกๆถ้าจะเล่าต่อ แต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไรดี
“ที่จะบอกก็คือ…ไม่บอกใครก็ได้อยู่แล้ว…แต่มาคุยกับฉันเรื่องนี้บ้างก็ได้นะ?”