แต่ถึงยังไงนะ ก็ถือว่ามันเป็นหนังที่ดี พอจะดูได้อยู่ เรื่องนึงเลยนะ ไม่ได้ดีมากๆ แต่อยู่ในระดับโอเค ดูสนุกๆ เพลินๆ ได้

ไม่ได้เลย5555 จากที่เอาใจช่วยเชียร์ กลายเป็นขำแทน

ที่หักคะแนนไปใหญ่ๆ ก็มีเรื่องของตัวร้าย ทีม Vengeance ที่เป็นทีมคู่แข่งในเรื่อง จะมีหัวหน้าคนนึง ซึ่งเบียวมากกกก บทคือให้เป็นตัวร้ายแบบเบียวสัสๆ อะ ตัวร้ายแบบการ์ตูนเลย มันเลยดูแปลกๆ ไปหน่อย แถมตอนท้ายเรื่องมีฉากโทรจิตคุยกัน ที่่แบบว่า โอ้โห เหมือน parody อะไรสักอย่าง ไม่ได้เลย5555 จากที่เอาใจช่วยเชียร์ กลายเป็นขำแทน

ว่าการเป็นเกมเมอร์ในยุคนั้นมันเป็นยังไง ครอบครัว ฐานะ การตัดสินใจเป็นเกมเมอร์ ตรงนี้ก็รู้สึกว่าใหม่ดี

ที่หักคะแนนไปใหญ่ๆ ก็มีเรื่องของตัวร้าย ทีม Vengeance ที่เป็นทีมคู่แข่งในเรื่อง จะมีหัวหน้าคนนึง ซึ่งเบียวมากกกก บทคือให้เป็นตัวร้ายแบบเบียวสัสๆ อะ ตัวร้ายแบบการ์ตูนเลย มันเลยดูแปลกๆ ไปหน่อย แถมตอนท้ายเรื่องมีฉากโทรจิตคุยกัน ที่่แบบว่า โอ้โห เหมือน parody อะไรสักอย่าง

หนังไม่น่าเบื่อ เนื้อหาจริงๆ ไม่ได้เยอะ เป็นการเล่าเรื่องชีวิตของ Soloz นักแข่ง Mobile Legends ว่าเป็นมายังไง ก็พอดูได้ แบบเพลินๆ เรื่อยๆ แอบมีช่วงเนือย แต่ไม่ได้เสียหายมากครับ

ตัวหนัง ดราม่ากว่าที่คิดนะ นักแสดงทำดี (ที่ผิดคาดคือดีกว่าหนังไทยหลายเรื่องมาก อันนี้หนังมาเลย์มั้ง) แสดงได้ธรรมชาติ น่าเอาใจช่วย แถมได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมของมาเลย์มากขึ้นด้วย

ยิ่งยัดใส่มาเท่าไหร่มันยิ่งเละเทะกว่าเดิม แทนที่จะจับประเด็นสักอย่างสองอย่าง แล้วบิ้วแค่อย่างนั้นๆ อันนี้เล่นหมดจนไม่รู้จะอินกับอะไร

สรุป มันไม่ได้เป็นหนังที่แย่ขนาดนั้น ถ้ามองในเรื่องของความคุ้ม ก็คงจะบอกว่าคุ้มอยู่ เพราะงานสร้างเขาดี เอฟเฟคต่างๆ เขาดี เนื้อเรื่องก็มีให้เยอะ แต่จะสนุกมั้ย ก็อีกเรื่อง ลองไปดูกันได้ครับ

แต่สิ่งที่หนังทำได้ดีมากๆ ก็คือพวกเอฟเฟค งานสร้างต่างๆ งานเลือดสาด งานแหวะ มาเต็มมาก ใช้เรต 18+ ได้โคตรจะคุ้ม

และในเรื่องของบทเอง แรกๆ อาจจะงงๆ เหมือนดูไม่มีอะไร แต่ในตอนท้ายๆ จะเริ่มเห็นสิ่งที่เขาคิดกันมาทั้งหมด ว่าเรื่องราวมันเป็นยังไง ซึ่ง.. ผมมองว่าเลอะเทอะ และไม่จำเป็น มันมั่วไปหมด พลิกล็อคไปมาแบบไม่ค่อยมีเหตุผล

สิ่งที่โดนหักคะแนนมากที่สุด ก็น่าจะเป็นเรื่องของบทของตัวละคร การกระทำของตัวละครในเรื่องไม่ค่อยจะสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่ ตัวละครแทบจะทุกตัว แบนราบเป็นหน้ากลอง ไม่มีความน่าสนใจใดๆ เลย บทของหนังก็ไม่ส่ง คอยให้ตัวละครตัดสินใจหรือคิดอะไรแบบที่เราได้แต่ถอนหายใจ ว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ มันเลยไม่อยากเอาใจช่วยแล้ว ตัวละครแบบนี้ ก็เลยดูไม่สนุกไปด้วย

คือเราไม่สามารถบอกว่าหนังมันไม่มีอะไรได้ เพราะเค้าใส่มาจัดเต็ม แต่จะสมเหตุสมผลมั้ยนี่ก็อีกเรื่อง

เรื่องนี้ไม่ได้มีบรรยากาศที่หลอน หรือน่ากลัว มันออกเชิงตลกด้วยซ้ำ มุกตลกเยอะ แต่เน้นจังหวะ jumpscare ซึ่งมีดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แต่เกลื่อนกลาดตลอดทั้งเรื่อง มีการใช้ซาวประกอบเสริมฉาก jumpscare ที่เรียกได้ว่าดังสนั่น ส่วนตัวผมมองว่าค่อนข้างเชย

ด้วยเหตุผลนี้ Noah Schnapp จึงอยากให้ท่าทางการใช้พลังของ Will ดูแตกต่างจาก Eleven เพราะเดิมที มันจะเป็นเหมือนท่าของ Eleven โดยหันฝ่ามือลงด้านล่าง แต่สุดท้ายพวกเขาก็เลือกใช้ท่า “เหยียดมือออกไปโดยหันขึ้นด้านบน” ราวกับว่า Will กำลัง “ดึงพลังขึ้นมาจาก Vecna” ครับ

🔗: Entertainment Weekly & Tudum

“เขาไม่ใช่ Eleven คนใหม่ และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการจะสื่อให้ชัดเจน จริงๆ แล้วเขาไม่ได้มีพลังของตัวเองด้วยซ้ำ เขากำลังเชื่อมต่อและ "ร่าย" พลังของ Vecna เพราะเขาถูกเชื่อมโยงกับ Vecna ตั้งแต่ซีซั่น 1 และบางส่วนก็เชื่อมโยงกับ Mind Flayer ด้วย ทำให้เขาสามารถดึงพลังนี้ออกมาใช้ได้ ถ้าอยู่ใกล้พอ”