Epione | ⭐MKG COMMU⭐
@mkgepione.bsky.social
130 followers 130 following 110 posts
"Thou dost smile. I sing the while Sweet joy befall thee." — Infant Joy, William Blake. ------------ Yr.3 |Retired| Acc for: #MKG_Commu Doc: https://tinyurl.com/3fc2jv27 ------------ DM: ⭐Open⭐
Posts Media Videos Starter Packs
Pinned
" 'พลังคือทุกสิ่ง' ฉันเชื่อแบบนั้น เพราะความอ่อนแอนั้นคือสิ่งที่น่ารังเกียจ"
"แม้ในตอนนี้ 'วายุทรราช' จะร่วงหลนแล้วก็ตาม"
"แต่ตัวฉัน 'เอเปียน' จะไม่หยุดแสวงหาในความแข็งแกร่งหรอกนะ"

/ฝากตัวน้องเบียวพายุด้วยนะคะ !
เอเปียนส่งที่ห้อยให้กับเนโร

"ดีแล้วที่มันไม่เสียหาย"

เธอดูท่าทางที่ดีใจของเนโรแล้วเธอก็กระพริบตา เหมือนว่าจะสงสัยอะไรบางอย่าง

"ของสำคัญรึ?"
(ปิดโรล ขอบคุณ​ที่มาโรลด้วยกันนะคะะ)
"อืม เช่นนั่นก็ขอให้แผลกายไว ๆ ล่ะ"

เธอกล่าวแล้วยิ้มบ้าง ๆ ไล่หลังเนโรไป เธอรอที่จะฝึกซ้อมกับเนโรในวันพรุ่งนี้ไม่ไหวแล้ว
"อืม"

เธอตอบอีกฝ่าย

"เช่นนั้นก็ขอให้โชคดี"
เอเปียนเดินหาตามโต๊ะแล้วหาไม่เจอก็เลยลองหาตามพื้นดู สรุปเธอก็ไปเจอเจ้าที่ห้อยนี่อยู่ใกล้กับบันได เธอเลยหยิบมันขึ้นมาแล้วเดินไปหาเนโร

"เจ้านี้หรือเปล่านะ?"

เธอยกเจ้าที่ห้อยนี่ให้เนโรดูว่าใช่สิ่งที่เธอตามหาอยู่หรือไม่
เธอเห็นว่าเนโรเริ่มหงอยเลยเดินเข้าไปใกล้แล้วลูบหัวของรุ่งน้องเบา ๆ

"ไม่เป็นำรหรอก พรุ่งนี้ข้าจะมาซ้อมกับเจ้าอีก ส่วนตอนนี้ไปพักเสีย"

เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าปรกติ
เอเปียนกระดิกหูเล็กน้อย

"ใช่ เป็นผลงานของเชคสเปียร์"

เธอดูเหมือนว่าจะสนใจรุ่นน้องคนนี้มากขึ้นราวกับว่าเธอค่อย ๆ ลดกำแพงลง

"นามของเจ้าคืออะไรกัน?"​
ข้าง ๆ โต๊ะ อีกด้านหนึ่งมีเอเปียนที่แต่งชุดราวกับราชาอยู่ ในมือของเธอมีดาบปลอมอยู่เล่มหนึ่ง

"เวลาได้มาถึงแล้ว! จงละทิ้งตัวตนเก่าของเจ้าแล้วสวมหน้ากากเสีย เวทีนี้คือโลกใหม่ของเจ้า"

แล้วเธอก็ยกขาขึ้นเหยียบเก้าอี้ตรงหน้าอย่างน่าเกรงขาม

"จงมาเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรของราชาเสีย"
(โรลเข้าชมรมตรงนี้)
(ต่อความเบียวของสมาชิกตรงนี้)
#เปิดชมรม_MKG #โรลเปิด #แยกรูท
สมาชิก: @mkg-amaru.bsky.social @mkgprince.bsky.social @mkg-sleepingpearl.bsky.social
----
ในช่วงเวลาเลิกเรียน ชมรมละครเวทีได้ตั้งบูธรับสมาชิกเข้าชมรมอยู่แถวๆทางเข้าโรงเรียนและเสียงจากเอเปียนกับปริ้นซ์ที่กำลังประกาสหาคนก็ดังขึ้น

"อัศวนารีเอ๋ย ม่านได้เปิดขึ้นแล้ว"

"จงสวมหน้ากากเสียต่อไปนี้โลกใบนี้จะเป็นเวทีของเจ้า !"
"ถ้าซ้อมต่อมันอาจจะทำให้แผลหายช้าลง"

เธอกล่าก่อนจะตบบ่าเนโรเบา ๆ

"อย่าฝืนตัวเองเล่า เนโร"

เจ้าตัวเอเปลี่ยนกล่าวด้วยน้ำเสียงเหมือนเป็นห่วง
เอเปียนเหลือบมองเนโรโดยไม่ได้พูดอะไร จากนั้นเธอก็รีบรุจไปที่โรงอาหารทันที

พอถึงโรงอาหาร เธอเริ่มหาจากโต๊ะทานข้าวก่อน แล้วก็เริ่มมองหาตามพื้น

ถ้าเป็นของที่สำคัญมาก ๆ เธอก็ไม่อยากให้มือเรื่องร้าย ๆ เกิดขึ้นหรอก
เอเปียนยกคิ้วขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะมองหนังสือในมือ นานๆจะเจอคนที่สนใจอะไรคล้ายๆกัน

"Midsummer Night's Dream"

"มีทั้งแบบบทกวีและบทละครเวที"

เธอกล่าวเสียงเรียบ แม้ในใจจะแอบตื่นเต้นอยู่ก็ตาม
"อย่างงั้นรึ"

ยังไงก็ตาทมมันก็ดูเป็นเรื่องน่าประหลาดใจสำกรับเธออยู่ดี เพราะน้อยคนที่จะคิดแบบนั้น ซึ่งจริง ๆ เธอก็แอบเหงาอยู่จริง ๆ
"การที่จะเป็นสาวม้าที่แข็งแกร่งนั้นไม่ใช่แค่วิ่งเก่งแล้วจะพอ"

เธอกอดอกแล้วเหลือบไปมองรูนะ

"เจ้าต้องฝึกที่จะทำให้คนเคารพและยำเกรงเจ้าแต่กระนั้นเจ้าก็ต้องรู้เวลาที่จะนอบน้อมเช่นกัน"

"และนั่นคือสาวม้าที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง"
เอเปียนรีบเอาตัวบังศาลเจ้าบูชาเมนของตัวเองแต่ดีที่ว่าเนมุ่ยแค่หลับไป เธอถอนหายใจแล้วเริ่มจัดแจงวางตุ๊กตา ฟิกเกอร์ แล้วก็รูปภาพเข้าไปในศาลเจ้านั่นแล้วปิดมันก่อนที่จะวางคาตานะปลอมไว้ในตู้เสื้อผ้า

แต่ว่า... นี่เธอนอนซ้อนนอนหรอ?
"เช่นนั้นลองไปที่โรงอาหารก่อนก็แล้วกัน"

เอเปียนกล่าวเพราะเกรงว่าในโรงอหารที่มีคนวุ่นวายแบบนั้นตัวพวงกุญแจอาจจะเสียหายไม่ก็หายไปเลยก็ได้
เอเยนมองเข่าที่ถลอกของเนโร สายตาของเธอที่เคยเย็นชาดูอ่อนงอย่างเห็นได้ชัด

"ไปห้องพยาบาลเสีย"

เธอกล่าวเพราะถ้าทิ้งเอาไว้เฉยๆแผลมันคงไม่หายไว ๆ แน่ ๆ
เอเปียนเงียบอยู่ครู่หนึ่ง เธออ่านหนังสือไปสักพักแล้วก็เริ่มเอ่ยถามขึ้นมา

"ทำไมเจ้าถึงเลือกที่มานั่งอยู่ตรงนี้เล่า?"

เธอสงสัยเพราะว่าการที่นั่งอยู่เงียบ ๆ กับตัวเธอแล้วสำหรับรุ่นน้องมันคงน่าเบื่อไม่ใช่น้อย
"นั่นก็อีกเรื่องหนึ่ง"

เธอกล่าวเสียงเรียบ

"เจ้าแค่ต้องรู้ว่าตัวเองนั้นอยู่ส่วนไหนของารแข่งขันโดยไม่มีอะไรมาขวางกั้น"

"การเจียมตัว คือการที่เจ้ารู้ว่าเจ้าใครจะโอ้อวดตอนไหนและถอมตนเมื่อใดก็เท่านั้น"
"อืม"

เธอตอบในลำคอ เธอวางหนังสือลงบนตักก่อนจะมองออกไปยังสนามฝึกอีกครั้ง

"บทละครน่ะ"

เธอตอบสั้น ๆ
เอเปียนที่กำลังวิเคราะห์บทละครจากในหนังสืออยู่ก็ปิดหนังสือลงก่อนจะวางมันลงบนโต๊ะ ดวงตาสีน้ำแข็งของเธอสบกับแดงตาสีทับทิมของอาโออิตรง ๆ

"ประธาณเอ๋ย ข้าเองก็เป็นสาวม้าสามมงกุฎ"

"คิดหรือว่าข้าจะไม่ได้ยินเสียงกระซิบนินทาของผู้คน"

เธอกล่าวไปตามตรง เธอรู้ดีว่าท่าทางของกลุ่มนักเรียนที่มองเธอกับประธานนั้นก็ไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่แต่หัวข้อที่พูดกันนั้นต่างกันออกไปเพียงเล็กน้อย
"กระนั้นเจ้าก็ยังคิดว่าตัวเองแข็งแกร่งและกล้าเรียกตัวเองว่า 'จอมมารสวรรค์'"

เธอชี้ให้เห็นว่าต่อให้เธอคิดเช่นนั้นแต่ความทะนงตัวของเธอก็ยังคงมีอยู่และนั้นคือ"อัตตา"ของเธอ
เอเปียนเงียบอยู่พักหนึ่งก่อนจะตอบสาวม้ารุ่นน้องที่มานั่งข้างๆเธอ

"ไม่ได้หรอก วิ่งน่ะ"

เธอไปตามความเป็นจริง เมื่อต้นเดือนเพิ่งดูหมอตำหนิเรื่องใช้ขามากเกินไปและจากอาการบาดเจ็บของเธอ เธอก็ไม่สามารถวิ่งได้อย่างเต็มแรงอีกแล้ว