🥬
@matsuki01.bsky.social
6 followers 3 following 2.4K posts
Posts Media Videos Starter Packs
ที่พยายามขยับมือจับมือของคุณให้คลำสัมผัสมากขึ้น และเสียงกระเซ่าของคนที่อยากถูกนายสัมผัสมาโดยตลอด

"จ จูบ... ผมที..."
ราวกับว่าสองสัปดาห์ที่ไม่ได้ทำกันเขาได้แต่เก็บกดไว้ข้างในมาโดยตลอด และตอนนี้คงไม่มีอะไรมาเหนี่ยวรั้งกันอีกแล้ว

คำถามที่เหมือนไม่ได้ต้องการคำตอบเพราะมือซุกซนได้ปลดซิปกางเกงและทาบแตะความอุ่นร้อนที่มันคุกรุ่นมาโดยตลอด ทำเอาหนุ่มผมสีเปลือกไม้ตะโกสะดุ้ง และครางเสียงหลงอีกครั้ง น้ำตาไหลจากความปรารถนาที่กักเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว

ดังนั้นคำตอบของมาสึกิจึงไม่ใช่คำพูด แต่เป็นภาษากาย

+
ริมฝีปากระเรื่อเหนอะหนะจากน้ำตาลและน้ำผึ้ง เสียงคราง เสียงหายใจที่กำลังทรมานไปกับไฟราคะที่แผดเผาทั่วเรือนร่าง มือที่ละล้วงสัมผัสผิวกายตั้งแต่เอวบางที่ทำให้เขาครางเสียงหลงแทบทันที และยอดอกที่ทำให้เขาครวญครางเพรียกหาคุณเบาๆ "..ม ฮ.. ระ..."

จูบกลบเสียงครวญคราง เหลือเพียงการหายใจหนักหน่วงที่กำลังดำดิ่งสู่รสชาติกามรมณ์ จับเนื้อตัวตรงไหนก็ดูจะรับมือของคุณทุกจุด

ไวมากกว่าเดิม

+
ทุกอย่างเบลอจนมาสึกิคิดอะไรไม่ออก มีเพียงสัมผัสที่ชวนวาบวาม ความหวานที่กำลังกลืนกิน ความแนบชิดที่เริ่มร้อนซาบซ่าน บางสิ่งที่ดันแตะต้องให้ชวนจิตฟุ้งซ่านเตลิดมากกว่าเดิม

มือที่พยายามสัมผัส กลายเป็นต้องค้ำกับเคาท์เตอร์ไม่ให้ตัวเองเผลอเอนล้มลงไป ลิ้นหวานพยายามตวัดตามอย่างไม่ประสีประสา เสียงคลอที่บอกว่านิดนึงดูจะไม่ได้เป็นความจริง ตาสีทะเลหยาดเยิ้มไปด้วยความกระสันอยาก

+
ใจร้ายชะมัด เจ้าตัวคิดในใจแต่ก็ยอมถูกกลั่นแกล้งให้เกิดความค้างคา ตอบรับการถูกชิมโดยโลมาเพชรฆาตตัวแสบไปเรื่อยๆ

จนมือเริ่มละออกจากชามไข่ ขยับแตะทาบมือข้างที่สวมกอด ลูบไล้ อ้อยอิงอย่างเชื่องช้า แต่ก็สั่นเทา

และเสียงครางที่ดังชัดขึ้นเรื่อยๆ

"อื้ม..."
ลิ้นที่รับรสลูกอมแสนหวานอมเปรี้ยว ชวนให้ร้อนระทวยไปทั่วใจข้างในที่กำลังสั่นเหมือนเสียงกลอง ครางในลำคอรับโดยไม่รู้ตัว

เคลิบเคลิ้มต่อความกระสันอยากที่กำลังระเริงสติให้กจะเจิดกระเจิงอย่างช้าๆ

บดเบียดพลางประคองลูกอมทรงเหลี่ยมในโพรงปากกันแหละกัน

มวลอารมณ์และอุณหภูมิที่ไต่ระดับมาเรื่อยๆ เริ่มทำให้ความยับยั้งชั่งใจและความอดทนไม่มีอีกต่อไป
.
.

ทั้งที่คนเริ่มไม่น่าจะอยากทำแท้ๆ

+
เมื่อเดินมาถึงโซนครัว มาสึกิหยิบปลาสีส้มสวย ตั้งหม้อสำหรับทำซอสไว้ต้มปลา ตอกไข่ตีเนื้อให้เข้ากันสำหรับทำไข่หวาน ในจังหวะพอดิบพอดีที่วางชามตีไข่ สัมผัสโอบกอดจากด้านหลังที่คุ้นเคย แต่ยังคงทำให้รู้สึกประหม่าได้เสมอ

"...!?" ยังไม่ทันได้ตอบ เพราะมัวแต่อ้ำอึ้งยามมือข้างหนึ่งแตะใบหน้าไทป์น้ำตาลให้กลับมามองคุณ พร้อมรับจูบไม่ทันตั้งตัวบ้าง

เสียงคราง มือที่จับชามไข่แน่นเพราะความประหม่า

+
"เย็นนี้ผมจะทำแซลม่อนต้มซีอิ๊วน่ะครับ ใช้เวลาทำอยู่ ระหว่างนี้ทบทวนอ่านหนังสือและสมุดโน๊ตไปก่อนนะครับ" แค่ชื่อเมนูก็รู้แล้วว่าพร้อมเอามาเสริมสมองนายแบบ 100%

ส่วนเครื่องเคียงคงต้องลุ้นเอาว่าเจ้าตัวจะเนรมิตอะไรมาให้

แน่นอนเพราะต้องรอเขาทำกับข้าว เพื่อไม่ให้นายง่วงหรืออ่านแบบขี้เกียจ(?) ก็เสิร์ฟ ลูกอมน้ำตาลชุดที่สองมาให้ เป็นรสสตอเบอร์รี่สีแดงสดสวยตามฤดูกาล หวานอมเปรี้ยวตื่นแน่นอน-
จูบที่บดเบียดอ้อยอิง ไม่ได้รีบร้อน หรือไม่ถล้ำลึกจนเกินไป แต่กลับซ่อนความคาดหวังเล็กๆ ที่แสนเห็นแก่ตัวไว้อยู่บ้าง

แต่อาจจะเพราะคุณพยายามหักห้ามใจหรือตอบสนองการสัมผัสน้อยลง สุดท้ายไม่นาน เขาก็ผละจูบออก เส้นใยที่สอดประสานเล็กๆ มากพอให้ใบหน้าร้อนผะผ่าว แดงระเรื่อขึ้นสี มือไม้ร้อนและสั่น

ตาสีสวยหลุบมองต่ำลงเล็กน้อย "..."

"เดี๋ยวผม ไปทำข้าวเย็นแล้วดีกว่าครับ"

+
และมวลอารมณ์ทุกอย่าง เป็นคำตอบและคำยืนยันคล้ายสัตย์สาบาน

จะอยู่กับคุณเสมอ และจะไม่ทิ้งคุณไปไหน...

ไม่มีวัน
อย่างว่าบ้านยูนะน่ากลัว(?)จาตาย (...) ดูดีกรีของคุณพี่สาวและหม่อมแม่ผู้เย็นชาคนนั้นแล้ว การจะกล้าขอทำอะไรตามใจยังคงต้องฝึกอีกเยอะ

“....” ตาสีฟ้าเขียวสบตาอย่างอ้อยอิง ความรู้สึกที่มันกำลังทะลักออกมาจากการกดมาหลายครั้งหลายครา สุดท้ายเป็นเขาเองที่ทนต่อความต้องการภายในไม่ได้

เริ่มขยับผละออก ก่อนเข้าใกล้คุณอีกครั้ง ริมฝีปากที่แนบชิด บดเบียดมอบความอุ่น ความหวาน

+
ศีรษะที่พิงตอบ คำพูดที่ตอบรับตัวตนของเขา ยิ่งชวนให้ตาสีชายหาดหวั่นไหวดุจฟองคลื่น แอบขยับศีรษะออดอ้อนรับโดยไม่ได้ตั้งใจ

มือที่ซุกซนแตะตามริมฝีปากที่ตอนนี้ลิปมันเจือจางจนแทบไม่มีแล้ว มันจึงไม่ค่อยลื่นเสียเท่าไร

ประโยคที่ค่อยๆ ปรากฎทีละนิด แต่การเปิดรับที่ว่างที่อยู่เคียงข้างตรงนั้นยังเป็นเขา ชวนให้รู้สึกสุขใจไม่น้อย

“อื้ม...”
“ไปได้เสมอเลยครับ”

“ถ้าไม่ชนกับธุระที่บ้านน่ะนะครับ”

+
"... หรือไม่ก็..."

"..."
"..." นิ่งเงียบจนสัมผัสได้เพียงอากาศภายในห้อง และเสียงกิจวัตรนอกอาคารในช่วงเวลาใกล้สนธยา

ก่อนที่สุดท้ายคุณจะรู้สึกได้ถึงมือที่ถูกคนเคียงข้างกุมแนบแน่นเต็มฝ่ามือ ขยับเลื่อนใกล้ใบหน้าจนสามารถจรดริมฝีปากเนียนนุ่มทาบแตะหลังมือของคุณแผ่วเบา ท่าทีเขินอายแต่การกระทำหาญกล้า

ตาสีโทนเย็นคงได้เห็นคนรนรานล่กว่าการทำแบบนี้พอช่วยให้คุณอารมณ์ดีขึ้นมาบ้างไหมนะ?
"แต่การเจอกันเองก็คงไม่ได้บ่อยอย่างปกติแล้ว"
"..." มีพบย่อมมีจาก แต่มาสึกิรับรู้ได้ว่าไม่ควรพูดอะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกที่ซับซ้อน เขาเพียงอยู่ข้างๆ คุณ รวบรวมความกล้าขยับตัวมาอยู่ใกล้มากพอจะเอนศีรษะมาอิงซบไหล่ของคุณเบาๆ

"..เอาไว้ มิคาสึกิคุงย้ายที่อยู่เป็นหลักเป็นแหล่งก่อน แล้วเราค่อยหาเวลาไปทักทายเขาน่าจะได้นะครับ"

ถึงจะต่างเมือง แต่มันไม่ได้ไกลแบบต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
+
"บางทีเที่ยวจนรู้ทุกวอกทุกมุมแล้วล่ะมั้งครับ?"
"ผิดกับผมที่ไปอยู่ไม่กี่ที่เอง" คำพูดที่คล้ายจะไร้แก่นสาร แต่มันแฝงอะไรอยู่ไหม? หรือบางทีแค่เปรียบเปรยง่ายๆ ตามประสาคนชอบด้อยค่าตัวเองเช่นทุกทีร่ำไป

"... นั่นสินะครับ" เมื่อพูดถึงเรียนจบ มาสึกิค่อนข้างเข้าใจ เพราะมันเหมือนกับมุมมองของครูที่ต้องส่งเด็กปี 3 เรียนให้จบ และอาจจะไม่เจออีกเลยก็ได้

"ถึงมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้ติดต่อง่ายขึ้น"

+
นิ้วที่ถูกเกี่ยวล็อคดุจการจับมือไว้ไม่ไปไหน ยิ่งทำให้มาสึกิเกร็งด้วยความประหม่ามากกว่าเดิม หากแต่ด้วยบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกถึงความอ้างว้างในเวลานี้ ทำให้จุดโฟกัสอยู่ที่อย่างอื่นแทน

"... ปีใหม่นับจากนี้"
"ขอฝากตัวอีกปีนะครับ" คำเอ่ยที่สุภาพนอบน้อม แต่ก็บอกโดยอ้อมได้ว่าเขาจะยังคงอยู่กับคุณ และยินดีที่จะมีส่วนเกี่ยวข้องในทุกช่วงเวลานับจากนี้...

"... มาฮิโระคุงเที่ยวทุกสัปดาห์เลยนี่หน่า"

+
"... พวกเรา กำลังจะรู้จักครบปีหนึ่งแล้วสินะครับ"
"ทุกอย่างผ่านไปเร็วเนอะ..."

"แถมตอนนี้มิคาสึกิคุวก็ถือเป็นเพื่อนของผมแล้วด้วย" บางทีการตั้งใจเอ่ยแบบนี้คงเป็นการเนียนกล่อมเชิงปลอบให้นายเลิกงอน(?) พ่อหนุ่มตัวสูงโย่งคนนั้นสักที

"... มีอะไร เกิดขึ้นมากมายเลยนะครับ"
โดนแกล้งจิ้มนิ้วคนขี้อายแบบมาสึกิเลยได้แต่รนรานในใจ แก้มระเรื่อนิดๆ และแสดงท่าทีเลิ่กลั่กอยู่บ้าง จนถึงจุดที่นายสนใจผักโขมเป็นพิเศษ คลับคล้ายคลับคลาว่าครั้งแรกๆ ที่เจอกัน คุณบอกไม่ชอบผักโขมหนินะ...

และคงเป็นในรอบหลายวันที่นายเริ่มพูดถึงเพื่อนสนิทวัยเด็กบ้างแล้ว
"...เรื่องที่เคยพูดถึงตอนปีที่แล้วสินะครับ"

คล้ายกับพยายามเอ่ยเบี่ยงประเด็นแบบนุ่มนวลแต่ก็ไม่ได้ปิดความสะดวกใจในเราเล่า
+
เจ้าตัววาดมาทุกพันธุ์ของผักโขมที่มีในญี่ปุ่นเลยจ้า (....)

“อ้อ อันนั้นเป็นผักโขมที่เห็นได้ทั่วไปครัย ส่วนตัวเล็กๆข้างๆ เป็นตัวเสริมถึงพันธุ์พิเศษที่พบเฉพาะถิ่นด้วยครับ ผมไม่แน่ใจว่าที่โรงเรียนภาครัฐสอนลึกไหม เพราะที่โรงเรียนผมเป็นหลักสูตรที่ไม่ได้ลงลึกแต่เน้นหลากหลายสำหรับคนที่สนใจต่อมหาลัยในเครือต่อน่ะครับ“ จะเรียกว่าเผื่อไว้ครอบคลุมหรือจริงๆทำเพลินไปหน่อย...?
นิ้วที่จิ้มชนกันทำให้มาสึกิขยับมือออกเล็กน้อยเพราะความประหม่า แต่ก็ค่อยๆขยับนิ้วให้กลับมาชนแบบเดิม

“... นั่นสินะครับ” เสียงในหัวเขากับเสียบในหัวคุณมันเป็นแบบไหนกันนะ?

“เพราะบางทีภาพตอนยังไม่เป็นอาหารก็แยกไม่ออกหรอกครับ” และปล่อยให้นายได้อ่านหนังสือภาพอย่างอิสระ ระหว่างนั้นก็คอยจิบน้ำเป็นพักๆ

สำหรับผักโขมดูเหมือนว่าระดับครูเกษตรจะไม่ได้วาดผักโขมประเภมเดียว...

+
จะต่างนิดหน่อยตรงพวกมันมีตาจุดงาดำคิ้วๆ พร้อมรอยยิ้มแสนมุ้งมิ้งที่เด็กเห็นก็ชื่นชอบ ผู้ใหญ่เองก็ตกหลุมรัก(?) เหมือนจะมีให้เห็นมิมิจังที่ทำท่าทางบิดเขินในวันนั้นด้วย...?

"...มันพอจะ... ช่วยมาฮิโระคุงได้บ้างไหมครับ?"
"ก็เหมาะกับมาฮิโระอยู่นะครับ" หรือคือการบอกอ้อมๆ ว่านายมันเรียนรู้ได้ด้วยนิทานเด็กเท่านั้นในความคิดของมาสึกิน่ะนะ (...)
แน่นอนว่าครูสอนเกษตรคนนี้ไม่รู้หรอก ว่าปกติโน๊ตของเด็กสาวม.ปลายเป็นยังไง แต่ที่เขาทำก็อ้างอิงจากหนังสือนิทานและสื่อการสอนของหลานตัวเองล้วนๆ

เรียกได้ว่านิทานเด็กของจริงไม่ติงนัง

"อ้อ มิมิจังอยู่นี่ครับ" พลางชี้ให้เห็น ภาพของเหล่าผักที่ไม่ได้แตกต่างจากปกติ

+
"ผมทำเป็นภาพประกอบกับคำสั้นๆ มากกว่าเป็นคำอธิบาย น่าจะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น" เปิดมาก็จะเจอภาพผักหน้าตาน่ารักสีสันสวยงามพร้อมคำศัพท์บอกว่าแต่ละอันคืออะไร ชี้ข้อสังเกตเด่น 1-2 จุดที่กำลังพอดี หรือแม้แต่การทำสวนรูปแบบต่างๆ

กรองเสียเหมือนคู่มือภาพการ์ตูนของเด็กประถม แต่เพราะเจ้าตัวเป็นครูเกษตร การเตรียมข้อมูลจึงแทบไม่ต้องค้นคว้าหามากมายอย่างวิชาอื่นนั่นนัก

"ล ลองอ่านดูว่าโอเคไหม"
มือที่ขยับมายีผมสีเปลือกไม้ตะโกจนยุ่งเยิง สร้างความมึนงงให้แก่คนอายุมากกว่าได้เสมอ

คำแซวหลังเตรียมเอกสารและสมุดโน๊ตให้เสร็จก็ถูกแซว(เชิงกวนติง) จึงหันมาสบตามองด้วยตาสีเทอควอซ์ฟ้าอมเขียวที่มองกี่ทีก็ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ทะเล... แต่บางครั้งก็เหมือนชายเลนในป่าเขียวโกงกางใหญ่ได้เช่นกัน

"... ป เปล่าครับ" เขาปฏิเสธ
และเริ่มส่งสมุดโน๊ตให้นายลองอ่านทันที

"อันนี้ครับ"

+
เพราะส่วนใหญ่เป็นภาพวาด ขั้นตอน และสำนวณการเขียนที่เน้นกระชับได้ใจความ เหมาะกับคนขี้เกียจอ่านหนังสืออย่างแฟนหนุ่มเป็นอย่างดี และเริ่มนั่งนิ่งเกร็งรอนายกลับมา (??) จนเหมือนเด็กน้อยที่กำลังรอพ่อแม่มารับยังไงก็ไม่รู้...?