Emily ☂︎
emilyating.bsky.social
Emily ☂︎
@emilyating.bsky.social
37 followers 35 following 310 posts
อยากใส่ซาวด์แบบ "It's a me, Mario!" #วันนี้เอมิลี่อ่านอะไร
Posts Media Videos Starter Packs
Pinned
เขียนในทวิตแล้วก็เอามาลงในบลูสกายบ้าง บันทึกการเที่ยวจีนครั้งแรกต่ะ (เซี่ยงไฮ้เป็นหลัก แล้วแวะไปซูโจว หางโจว เจียซิงบ้าง) #วันนี้เอมิลี่ไปไหนมา
ทุกคนล้วนรู้จักกันเป็นวงกลม เดินไปเดินมาก็ เอ้า นี่คุณคือ!? สรุปว่าเซอร์เคิลนักอ่านนักเขียนช่างมหัศจรรย์
ไฮไลท์ที่ไม่คาดคิด : เจอรุ่นพี่ที่คณะจนได้เม้ามอยเรื่องวิชาเรียนและอาจารย์ทั้งหมด คิดถึงบรรยากาศสมัยเรียนสุดๆ
ใช้พลังงานไปเยอะมาก แต่ก็แฮปปี้ ฮิๆๆ (⁠.⁠ ⁠❛⁠ ⁠ᴗ⁠ ⁠❛⁠.⁠)
มีอยู่ค่ะ เราเดินไปเม้าในบูธนี้ทุกวันที่ไปเลย 55555 (แต่ยังดองไว้อยู่เลย เดี๋ยวต้องไปอ่านแล้วค่ะ ><)
Reposted by Emily ☂︎
สนพ. อยากได้แนว slice of life มักเกิ้ลนิยม แต่พี่ว่าคนที่โตมาในสังคมที่คนแต่งชุดแฟนซีไปเรียน จักรยานจอดบนต้นไม้เป็นเรื่องปกติ วันดีคืนดีคนในคณะต่อตัวเป็นตะขาบคลานไปโรงอาหารมันจะ slice of life ยังไง ศิลปากรทำให้ไม่รู้ว่าคนทั่วไปเป็นยังไง
Reposted by Emily ☂︎
ไปดูเล่มธาราคั่งแค้น ฉันทน์แสนหมื่นชัง (ชื่อนี้ปะวะ) มา คือไม่ได้เลย สระลอยขนาดนี้มันหลุดมาได้ไงฟระ ดีนะมาดูตัวอย่างก่อนซื้อ ขอให้พิม 2 แก้เหอะ
Reposted by Emily ☂︎
ชหมาก ชั้นไปซื้อของที่บูธคุนพ่อ คุนพ่อเลยมาซื้อของที่บูธชั้น จบที่คุนพ่อแก ซื้อ หลับลวงไป อมก. คือแนะนำอันไหนให้ก็ตกนรก ขายวายกับบาทหลวง อ๊ากกกกกกกก
รีวิวเก่าตอนปลายเดือนที่แล้ว โห เขียนเยอะจัง
แต่จะว่าไปเค้าก็ปูมาตั้งแต่แรกแล้วว่าคบกันเร็วมาก มันเลยรู้สึกเหมือนอยู่ด้วยกันแบบถูลู่ถูกังตามสัญชาตญาณไปก่อน พอเจอปัญหาเลยเก็บๆๆๆ แก้แบบยังไงก็ไม่รู้ จนมาคลายที่เออ เรียนรู้หนทางใหม่ซักหน่อย ก็เมคเซ้น
ยังค้างคาใจเลยไปหาดูว่ามีใครพูดไรอีกมั้ย มีคนบอกว่าไม่ realistic เหมือนกันเพราะรู้สึกว่าปัญหาดูไม่ได้รับการแก้ไขขนาดนั้น เหมือนเพิ่งหัดเรียนรู้การสื่อสารระหว่างกันหลังจากอยู่กันมาสี่ปี ยังกะกลับมาตั้งไข่กันอีกรอบ
คือกลับไปดูโน้ตตัวเองปีที่แล้ว เขียนไว้ว่า ชอบมาก ดีมาก แฟนเก่าที่ดี ส่วนตอนนี้เป็นคนที่ตัดขาดอะไรได้แล้วจริงๆ ถึงคิดว่าการจะปรับแก้ปัญหาจริงๆมันยากมากเลยนะ ปีนี้ก็ผ่านอะไรมาจนรู้สึกเหมือนในหัวโดนทุบนิดหน่อย เลยออกมาเป็นแบบนี้ น่าสนใจมาก 🙂‍↕️
อยากฟังความเห็นของคนอื่นเหมือนกันว่าคิดยังไง ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะพิมพ์ออกมาได้เยอะขนาดนี้ แต่เวลาอ่านแล้วได้ความรู้สึกผิดคาดก็จะนั่งวิเคราะห์ออกมาได้อีกแบบเหมือนกัน 🤧
เลยรู้สึกว่าคอนฟลิคคลี่คลายง่ายจังนะ ปรับปรุงตัวเอง หันหน้าเข้าหากันอีกครั้งนี่มันจะง่ายขนาดนี้เลยรึ แอบ skeptical หน่อยๆ
ละจริงๆโทอินี่ก็เป็นคาร์ที่เราก็แอบเก็ท กับความ self-absorbed ที่จะทำให้คนอื่นรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้แคร์เค้าอ่ะ มันเป็นนิสัยของคนที่ไม่ควรจะมีแฟน 55555 ก็เลยเออ นั่นแหละ เป็นไดนามิคที่มันจะต้องตู้มเข้าซักวันอยู่แล้ว
ใดๆก็ตาม เราว่าเค้าสร้างคาร์ได้น่ารักดี เวลาวาดหน้าสึคุชิจะมีประกายน้ำโผล่มาบ่อยมากเหมือนคนที่รีแอคเร็ว อะไรเกิดขึ้นก็จะมีปฎิกิริยาโต้ตอบหมด เลยเสริมความที่ notice things ได้เยอะจนรู้สึกนอยได้ง่าย
ทรมานกว่านี้มากๆ ขัดแย้่งกับตัวเองเยอะกว่านี้มากๆ เลยมีความรู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยถูกใจกับเรื่องที่คนบอกว่าหม่นๆเรียลๆเท่าไหร่ เพราะเรารู้สึกว่าเหมือนความเรียลแบบนี้มันเป็น reality ของคนอื่น แต่ไม่ใช่ของเรา เราเลยอ่านแล้วไม่ค่อยรู้สึกอะไร เพราะมันไม่ค่อยรู้สึกเชื่อมโยงกับเรา
แต่โดยรวมแล้วก็ยังรู้สึกว่าอารมณ์ในเรื่องราบเรียบไปหน่อย แบบว่า คิดว่าตัวเองก็เคยอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆแบบนี้เหมือนกัน แล้วความรู้สึกเรามันรุนแรงกว่านี้มาก เรามีความโกรธและแค้นใจเยอะกว่านี้มากๆ 😂
กระบวนการการ explore ความรู้สึกของตัวเองตอนที่ไม่มีอีกฝ่ายแล้ว แล้วก็วังวนการตัดไม่ขาดนี่อันนี้ก็เมคเซ้น เข้าใจ เก็ท
อีกคนก็เป็นคาร์แบบไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายเท่าไหร่ ต่างคนต่างยุ่ง เครียด แล้วก็ทรีตกันแบบเฉยเมย ไม่หันหน้าคุยกันเพื่อแก้ปัญหา มันก็เลยตู้ม เลิกกันดีกว่าเนอะ
ก็น่าจะเป็นสปอยได้มั้งนะ ถ้ายังไม่ได้อ่านก็ข้ามไปได้เลย สรุปง่ายๆคือมันก็เป็นเรื่องของแฟนที่เลิกกันแล้วกลับมาคืนดีกันนั่นแหละ เป็นความรู้สึกคอนฟลิคในใจ เจอสิ่งที่ไม่ชอบใจในคสพ แล้วก็เริ่มสงสัยตัวเองว่าทั้งๆที่จุดนี้ฉันเคยชอบและยอมรับได้แท้ๆ แต่ตอนนี้ทำไมถึงรู้สึกเกลียดขึ้นมานะ
จริงๆเรื่องนี้เคยอ่านมาก่อน น่าจะชอบอยู่บ้างเลยมาอ่านเล่มไทยอีกรอบ แต่รอบนี้อ่านแล้วเฉยกว่าที่คิด ก็คิดๆอยู่ว่าทำไมนะ แล้วทฤษฎีแรกที่โผล่มาก็คือ เผลอเอาทัศนคติ/ความรู้สึกของตัวเองลงไปเปรียบเทียบด้วยจนรู้สึกว่าคนในเรื่องนี่ดูทำอะไรเรียบง่ายกันจัง
แต่โดยรวมคือภาพสวยดี เค้าใช้ภาษาภาพเล่าเรื่องได้ดูอ่อนโยนดี อธิบายไม่ถูก ตัวเอกก็สวยมาก อยากอ่านต่ออีกซักเล่มอ่ะะะะ
แค่รู้สึกว่า เออ มันใช้ชีวิตตาม flow ของอารมณ์จริงๆแฮะคนพวกนี้ เนื้อเรื่องดูเป็นการต่อสู้ในจิตใจมากกว่าเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ่านๆไปก็รู้สึกว่าเราจะ grasp ออกมาได้แค่ไหนเนี่ย
บรรยากาศอินดี้ญี่ปุ่นมาก บอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไง แต่ก็ไม่แย่ มันให้ฟีลแบบความรู้สึกมัวๆสับสน ตัวตนมัวๆที่เล่าแบบให้เอาไปคิดต่อเอง เส้นรางๆของความเป็นชายเป็นหญิง ความปกติความไม่ปกติ