ℋ𝒾𝓇𝑜*+• . | Praise The Fool 💙
banner
hirorrmm.bsky.social
ℋ𝒾𝓇𝑜*+• . | Praise The Fool 💙
@hirorrmm.bsky.social
71 followers 72 following 830 posts
❮ ฮิโระ ❯ | แอคสำหรับด้อมราชันโลกโดยเฉพาะ (Only for Lotm Acc) หวีด+ลงอาร์ต&ฟิค 👑🔮 | 🕳🌫 Find my lotm thread at : #เธรดราชันโลกของฮิโระ This acc finished reading LotM (most of my posts have spoil content) & just start CoI
Posts Media Videos Starter Packs
ฮิโระกินของเผ็ดไม่เก่งเลย...แต่ว่าก็ยังสั่งมากิน (หมายถึงสตรอว์เบอร์รีโรลที่มีผงที่เผ็ดมาก...) กินแล้วน้ำตาคลอ รู้สึกเหมือนความเป็นมนุษย์คืนมาถึงครึ่งส่วน แอบคิดว่าวิธีนี้ก็ดูเป็นวิธีคงความเป็นมนุษย์ที่ดีเหมือนกัน

แต่คุณฟูลคงใช้ไม่ได้ ถึงลิ้นคุณฟูลจะถูกกับของหวานมาก แต่ก็ชอบเครื่องเทศด้วย คนจีนนี่ยังไงก็ทานของร้อนของเผ็ดได้แน่นอน... แต่ว่าย้อนอดีตก็คงช่วยได้เหมือนกันนะคะ เหมือนที่คุณโจวกินปิ้งย่าง
ตั้งแต่ฮิโระหวีดเรื่องคุณเบอร์นาร์ดอาจชอบคุณเซซีมาแล้วนะคะ ถุงมือแดงนี่นอกจากจะผ่านคุณสมบัติหมาล่าเนื้อขององค์เทพีที่ดีกันมาหมดแล้ว ยังสนใจแต่งาน ความรักไม่รุ่ง ไม่รู้สึกตัว ถวายตัวรับใช้ลูกเดียวเลย (หลุนก็ศรัทธา Max เพราะอยู่ในลัทธิแต่เด็กอีก)

หลุนเค่อเป็นคู่แบบที่ว่าถ้าจบลงด้วยหลุนย้ายมาพักอยู่ด้วยแล้วยังมองแง้วเป็นเพื่อนคนสำคัญต่อไป ผมก็ไม่แปลกใจเลย (ต่อให้จะทรงเป็นแฟนกันแค่ไหนก็ตาม)
ภาค 4 เป็นอะไรที่จุกอกเจ็บใจมากโดยเฉพาะตอนจบ

ต่อให้จะต้องเดินทางคนเดียวตลอดไปก็ไม่เป็นไร ไม่จำเป็นต้องมีใครเปลี่ยนมานับถือฉันด้วย แต่ฉันก็อยากให้นายมาอยู่ข้างกันเสมอนะ

หลุนเป็นคนเดียวที่ไคลน์ชวนให้มาอยู่ด้วยกัน(วาจากำกวมสุภาพบุรุษโลเอน)ขนาดนี้เลยนะคะ 😭😭😭

รักข้างเดียวที่พยายามเรียกเขาว่าเพื่อน เพราะนอกจากจะไม่อยากสร้างคสพ.แล้ว เขายังดูเห็นเราเป็นแค่เพื่อนร่วมงานด้วย
แฝงตัวเข้าลัทธิ อาจร่วมมือกับอินซ์ด้วยซ้ำ ไคลน์ก็คงไม่อยากถูกหลุนมองด้วยสีหน้าที่เปลี่ยนไปหรอก

อาจเพราะแบบนี้ไคลน์ก็เลยเรียกแทนเลโอนาร์ดว่า [ พ่อกวี…รัก] อาจแสดงออกว่าไคลน์อยากให้เลโอมองตัวเองเหมือนที่กวีเที่ยงคืนในทิงเกนทำตลอดไป ก็ได้นะคะ

(แอบมี HC ว่าแง้วสั่นตอนฝันเห็นหลุนขุดหลุมด้วย ยังไงก็ต้องเห็นหน้า เจอหมาป่ากวีสีหน้านี้เข้าไป แง้วก็เลยไม่กลับไม่ลงไปใหญ่จนกลับไม่ได้แล้ว🥹)
ยิ่งเห็นขั้นตอนตรวจที่แค่ประตูชานิสเปิดเองอันนั้น คุณโจวที่กระทั่งตอนจบอาร์คทิงเกนยังเรียกตัวเองว่าวิญญาณร้าย ยังไงก็คงไม่กลับไปแน่

(เรื่องมันคงต่างไปบ้างถ้าองค์เทพีสามารถติดต่อแง้วได้ แต่องค์เทพีเองก็คงหวังให้แง้วได้เติบโตไปเป็นเทพเหมือนกัน เพราะท่านเป็นนักลงทุนรายใหญ่นี่นา)

สุดท้ายคือก็เพราะไคลน์รู้ว่าเลโอภักดีถึงขนาดนี้ด้วยมั้งคะ ถ้ารู้ว่าไคลน์อาจเป็นคนของเทพชั่วร้าย อาจถึงขั้น
ครับ… ข้างบนเป็นฟีลคร่าว ๆ ในหัวผมที่อ่านฉากนี้แล้วหายใจไม่ออก เป็นการเขียนที่สลับอารมณ์ไปมา เพราะความว่างเปล่าตรงหน้าทำให้เกิดอารมณ์มากมายได้เลย

แต่ก็นะคะ หนึ่งคือ ฮิโระคิดว่าไคลน์ไม่คิดถึงเรื่องกลับลัทธิเลยก็ด้วยหาคำมาอธิบายไม่ได้ อะไรล่ะจะสร้างปาฏิหาริย์อย่างการเกิดใหม่ได้ เทวทูตเหรอ แต่เขาเป็นลำดับ 8 ชัดๆ แล้วถ้าทางลัทธิคิดว่าเขาไปพัวพันกับเทพชั่วร้ายล่ะ เขาเป็นเลยนี่นา
เป็นสีหน้าที่ไม่ใช่แค่ใช่ธรรมดาแต่เป็น ใช่เลย😭

หัวคิ้วที่ไม่ดูดุร้ายแต่ดูไม่อยากจะเชื่อและแอบดูสบายใจ(ดีใจ?)นิดๆ ส่วนสายตากับริมฝีปากกลับแสดงความดุร้ายออกมาผ่ายความคิดแว็ปหนึ่งที่ผ่านเข้ามาหัว

ไคลน์ไม่อยู่ เขายังไม่ตาย เป็นไปได้ยังไง เขายังไม่ตายจริงๆด้วย! ทำไมล่ะ ทำไมถึงไม่กลับมา โล่งอกไปที นายคงไม่ได้ทรยศลัทธิหรอกใช่ไหม ได้โปรดขอให้ไม่ใช่ทีเถอะ ไม่งั้นฉันจะต้องฆ่านายด้วยมือฉันเอง
แต่ถ้าโทรหาคุณโจวรับประกันได้ออกแน่ แค่ทนฟังบ่น ม่อนไม่ชอบเสี่ยง อาดัมไม่อยากกวนกรีช่า สรุปคุณอาจำเป็นก็ต้องมาช่วยนะคะ (คุณโจวยังใจอ่อนเกินไป ท่องไว้ว่าลูกเพื่อน) 5555

อามานี่ : ลูกชายเธอเรียกลูกแมวฉันออกไปตอนกำลังตั้งใจทำงาน
กรีช่า : ให้โจวพักผ่อนก็ดีแล้วนี่
อามานี่ : ลูกหมาตัวหนึ่งฉันนอนซึมไม่มีแรงใจทำงาน
กรีช่า : ...

ฮวงเทา : ไหนๆเสี่ยวโจวก็ออกมาแล้วไปกินปิ้งย่างกันดีกว่า!
วกกลับมาโพสต์แรกก่อนไปนะคะ (เธรดที่ไปเรื่อยมาก แต่ว่าหวีดทฤฤษฏีเกี่ยวกับ ASG ก็ยังสนุกมากสำหรับผมอยู่ดี) การที่ม่อนตัดสินใจเลือกถามคนพี่ว่าน่ารักแล้ว การที่อาดัมเลือกจะโทรหาคุณโจวยิ่งน่ารักไปอีก

คือเหมือนไวป์ครอบครัวแบบว่า ถ้าโทรหาพ่อคงเป็นทางสุดโต่ง 1.ยุ่งไม่ว่างรับ 2.รับจัดการเรื่องให้เงียบ ๆ 3.รับแต่ปล่อยไปให้ดูแลตัวเอง อันแรกกับอันสามก็ดูอันตราย แม้เกือบร้อยเป็นอัน 2 ก็ตาม-
อย่างที่แง้วว่าไว้เอง ก็สามสหายทรยศดันสร้างบุญคุณเอาไว้

ออเคซุสก็ของขลังช่วงเมกอสที่รับรู้แน่แต่ไม่ทำอะไร

เฮร่าก็มีลุคคาที่บอกเรื่องวันสิ้นโลก เอ็ดวิน่าที่ให้บันทึกการเดินทางของกรอสเซลล์มา แถมยังให้ดานิซที่เดิมเป็นคนของเอ็ดวิน่ามาช่วยอยู่ดูแลโบสถ์อีก

ส่วนลีโอเดอโร เรียกชื่อนี่ใช้บ่อยเลย แถมมีเรื่องคุณแอลเจอร์ที่ยอมให้มาอย่างปลอดภัยไม่เอาเรื่อง แถมยังคืนเรือให้อีก แถมยังเคยไปแย่งคฑามาอีก
ตั้งแต่อามอนไม่น่าไว้ใจแล้วค่ะ

คุณโจว : คุณเพื่อนร่วมยุคของฉัน ดูตัวเลือกของคุณแล้วบอกฉันอีกทีสิ
กรีช่า : แต่โจว...อามอนเป็นเด็กดี-
คุณโจว : ...(หลานคนนี้ไม่ใช่เด็กดีเลย คุณหยุดเถอะ-)
กรีช่า : เอาล่ะ ก็ดื้อและเอาแต่ใจบ้างตามประสาเด็กควรเป็น แต่ว่าฉันใช้อำนาจของดวงตะวันให้เขาทำสัญญาไว้ก็ได้นะ เขาไม่ทำร้ายเธอหรอก

แต่จริงแล้วปัญหาหนึ่งจบแต่ปัญหาแท้จริงก็ตามมาอีกสิบนะคะ
โอเค ท่านช่วยอามอน นั่นมันชัดเจนว่า

1. อามอนอยู่ในยุคสมัยที่ท่านรุ่งเรือง สมัยที่ยังคงมีอาดัม ที่กรีช่ายังคงมีความเป็นตัวเองอยู่
2. ท่านเลือกสร้างอามอนขึ้นมาแต่แรกก็เพราะอยากเจอ เพื่อนร่วมยุคสมัย อยากจะปลดโลกหลังหมอกนั้น กันวันสิ้นโลก
สู่ 3. หากมีตัวเลือก ท่านก็ไม่ต้องการให้เพื่อนร่วมยุคคนใดกลายเป็นเทพ และใช่ กรีช่ามองว่าคุณโจวไม่จำเป็นต้องทำ แต่คุณโจวมองซ้ายขวาหน้าหลังยังไงก็จำเป็น
สารภาพว่า...ผมเสียใจจริง ๆ ที่ ASG เลือกความเป็นเทพ แล้วก็เสียใจจริง ๆ ที่ไม่มีใครสามารถรั้งท่านไว้ได้เลย แน่นอนว่าการขึ้นเป็นเทพด้วยผู้ชมเป็นเส้นทางที่มีประสิทธิภาพที่สุด แต่การที่ท่านเลือกที่จะเสียสละความเป็นมนุษย์ของท่านไปน่ะ การที่ท่านใช้ทุกคนเป็นหมาก ทั้งอามอน อาดัม เสียสละกระทั่งเมดิชีและโอโรโบรอสที่ศรัทธาท่านที่สุด ผมคิดว่าการถูกทรยศคงสร้างแผลใจให้ท่านพอตัวเหมือนกัน
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นซัสริเอลหรือว่าตัวกรีช่าเองก็ต่างรักสายนักอ่านที่เป็นตัวท่านเองมากที่สุดกันทั้งคู่นะคะ ซัสริเอลแม้จะครองพลังของการเสียสละ (ที่ผมก็เชื่อว่ากรีช่าในเวลานั้นก็คงไม่อยากเสียสละอะไรไปหรอก เชื่อว่าท่านรักผู้คนของท่านมาก ยังไงก็เป็นคนที่เห็นมนุษยชาติล่มสลายไปกับตา) แม้จะดูเป็นลูกที่ไม่ถูกรักที่สุด แต่ก็เป็นตัวท่านมากที่สุดเหมือนกัน
ขณะเดียวกันนามเคารพที่ถูกเรียกขานมากที่สุดก็คือ ผู้แตกฉานสรรพวิชาทั้งปวง ขนาดซัสริเอลที่ผมมั่นใจมากว่าคงความเป็นมนุษย์ไว้ได้มากกว่า (จึงสร้างกุหลาบแห่งการกอบกู้มาโดยมีซัสริเอลเป็นแกน)

ส่วนตกค้าง เรียกสุริยเทพว่าเป็นนามแรก และดูพึงใจกับการเรียกด้วยสองนามแรกสื่อถึงเทพผู้สร้างองค์แรก อีกชื่อ แตกฉานสรรพวิชาทั้งปวง สื่อถึงความเป็นมนุษย์ของท่าน หรือจักรพรรดิเบื้องบนไปเลยมากกว่า
ถึงแบบนั้น เส้นทางที่ท่านเลือกที่จะเป็นเทพ เลือกจะครองนามก็คือ ดวงตะวัน ในฐานะ สุริยเทพบรรพกาล เรื่องนี้สมเหตุสมผล แน่นอนว่า

1. เพราะช่วงเวลาที่ท่านติดอยู่ในความมืดมิดได้แต่เป็นผู้ชมชะตาของวันสิ้นโลกในทะเลแห่งความสับสน

2.เพราะโลกภายนอกทั้งใบมืดมิดและเต็มไปด้วยปีศาจมากมาย

ดังนั้นเมื่อท่านออกมาจากทะเลแห่งความสับสนได้จึงเลือกจะกล่าว 'Let There be Light!'
ดังนั้น อาดัม ที่กรีช่าให้กำเนิด ต่างจากอามอนที่เป็นตัวตนของสายเพียว ๆ อาดัมมีความซับซ้อนนั้น การรวมกันของสองสิ่งที่ต่างขั่วกัน อาจช่วยทำให้กรีช่ามองอาดัมเป็นลูกคนหนึ่ง หรือมีความเป็นมนุษย์มากขึ้นเมื่อได้มองอาดัม

ในความหมายคือเมื่อมองอาดัมแล้วไม่ได้เห็นภาพตัวเองวัยเด็กมาซ้อนทับ ถึงอย่างไร วัยเด็กของกรีช่าก็ควรเป็น นักอ่าน มากกว่า ผู้ชม 🥹✨
ผมเคยลงทฤษฏีไว้ว่าจากทั้งหมด 5 สายใต้อำนาจจักรพรรดิเบื้องบน ท่านไม่ชอบผู้ชมที่สุด แต่ขณะเดียวกันถึงท่านจะแยกส่วนที่ท่านไม่ชอบที่สุดออกไป (ต่างกับที่เก็บนักอ่านไว้กับตัวเสมอ --> สำหรับท่าน กรีช่าที่เป็นนักวิจัยคงไม่พ้นความเป็นมนุษย์สูงสุด) แต่ขณะเดียวกันก็มอบบทบาทของงานอดิเรกที่ท่านชอบที่สุดไว้อาดัมให้ด้วย
ถ้าถามว่าชอบพวกงานวิจัยมาก แน่นอนสิว่าชอบ ชอบมากด้วย แต่ขณะเดียวกันก็คงไม่ได้มีเวลาว่างมาก อาจไม่ได้มีเวลาค้นหาตัวตนมาก อีกอย่างครอบครัวก็คงเคร่งศาสนาพอตัว ไม่ก็ท่านก็เคยอ่านไบเบิลทั้งเล่มมาก่อน (ผมคิดว่าท่านชอบเรื่องราวในไบเบิลมากเหมือนกัน ก็ดูอย่างวิธีสร้างซัสริเอล กับตั้งชื่อลูกว่าอาดัม...) จากนั้นพลังของนักอ่านก็ทำให้ท่านเขียนไบเบิลของตัวเองขึ้นมาได้
บทอันหนึ่งของอินคอเรคล้อทเอ็มที่ว่าม่อนกับอาดัมอยู่ในคุกด้วยกัน คุยกันว่าจะโทรหาใคร แล้วอาดัมตอบว่าไคลน์ แต่คิดว่าในคุกนี่น่าจะปลอดภัยกว่าก็คือ 54545

ASGโจว อร่อยมาก โกรธสองพี่น้องไหม ไม่น่ารอด แต่ทรงนี้น่าจะโกรธคนพ่อ(แม่- แค่ก)พอกัน เลี้ยงลูกแบบปล่อยสุดๆ แบบปล่อยจริงไม่จำกัดบาร์อะไรเลย คือผมก็คิดอยู่นะว่าบางทีกรีช่าคงโดนเลี้ยงมาแบบเข้มงวดมาก เลยอยากให้พวกอามอนมีอิสระที่สุด+
สารภาพว่าผมหวีดวิเคราะห์ทำไปหลายเรื่องมากจนไม่รู้จะพูดถึงอะไรในราชันโลกได้อีกไปพักหนึ่ง (ก็เลยกลับไปตามด้อมเก่าบ้าง 🥹)

แต่ดีใจมากที่ช่วงนี้เกมราชันโลกมีอัพเดตมาให้เห็น เลยได้หวีดเพิ่มเยอะเลย (รวมถึงไปเจออะไรน่าสนใจมาด้วย—) ดีใจมากเลยครับ 😭💝
สาเหตุที่ผมตัดสินใจซื้อสแตนดี้อาร์ตนี้มา

โทนสี ✅

หนวดกับเมฆ ✅

คุณฟูลยิ้มอ่อนโยน ✅✅

อะโรดส์ ✅✅✅
ตอนดินแดนซึ่งทวยเทพทอดทิ้งก็เลย บู้ม แตกหักกันสมบูรณ์

ก็เลยเป็น ‘ม่อนม่อนของเมอร์ลิน’ เพราะม่อนไม่จำเป็นต้องปลอมเป็นใครไปด้วยกันกับแง้วอีกแล้ว ท่านสามารถเป็นท่านเองแล้วไปทักทายคุณเมอร์ลินด้วยรูปลักษณ์ดั่งเดิมของท่านได้เลย

สุดท้ายก็จบที่ ‘เลิฟเวอร์ของเดอะฟูล‘ จบแบบเดียวกับที่โชคชะตาวางไว้ แล้วก็เริ่มจีบแบบตรงไปตรงมา เรียกว่า อมรไคลน์ Slow burn 2 ปีถึงได้เข้าใจว่าฉันรักเธอ
ถึง ‘ตุ๊กตาม่อนของเกอร์มัน’ ก็เลยอาจสนิท/รู้จักกันขึ้นแล้ว ม่อนก็คงสนุกได้มากขึ้น แง้วก็คงสบายใจมากขึ้น ออกสู่ท้องทะเลไปด้วยกัน (อาจชินกับที่เชอร์ล็อคมีคู่หูด้วยนะคะ)

พอกลับมาเป็น ’ดยุคม่อนของดเวย์น’ ก็คงเป็นม่อนฟีลกลับไปรับมรดกตัวเองมา เหมือนทำความรู้จักกันใหม่แบบเหมือนใส่เนื้อเรื่องให้ตลค.เฉย ๆ แต่ว่าบรรยากาศจะตึงขึ้นเพราะเรื่องปราสาทนี่แหละค่ะ
(เหมือนสมัยซีโอฟลอส์ที่ม่อนก็รู้แต่กำลังสนใจข่าวเกอร์มันมากกว่าแล้วก็ปล่อยไปทั้งที่รู้ว่าทั้งคู่ถูกดึงตัวไปประชุม)

ดังนั้นด้วยเงื่อนไขที่ไม่ผ่านจะพาทั้งคู่ไปยังโชคชะตานั้น ไคลน์ทิงเกนเลยไม่อาจมีม่อนเป็นของตัวเองได้ และแง้วภาคแรกก็ไม่สนใจจะมีคนรักอยู่แล้วค่ะ (ไพ่เลิฟเวอร์ก็เลข 6 เลยนะคะ)

พอเป็น ‘วัตสันม่อนของเชอร์ล็อค’ ก็คงออกแนวกำลังพัฒนา ม่อนสนใจแต่กำลังศึกษาอยู่ คุณนักสืบก็คงไม่เหงามาก+